คำถามที่เจอบ่อย
คำถามที่เกิดขึ้นอาการเจอบ่อย
1.น้ำแอร์หยดจากเครื่องปรับอากาศ ทำยังไงดี
ปัญหาน้ำแอร์หยดด้านในนี่เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยตามบ้านทั่วไป ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็มักจะพาความรำคาญจากความเปียกชื้น และยังอาจทำให้เกิดอันตรายจากไฟรั่วได้อีก สาเหตุที่ทำให้น้ำแอร์หยดเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน วันนี้เราจะมาแนะนำถึงสาเหตุและวิธีแก้ไข ในกรณีที่เกิดน้ำแอร์หยดครับ
สาเหตุสาเหตุ ที่ทำให้เป็นอาการนี้ คือ
- เกิดจากถาดหรือท่อทิ้งน้ำนั้นตัน ทำให้น้ำที่เกิดจากกระบวนการฟอกอากาศ ไม่สามารถระบายออกไปได้ จึงล้นและไหลย้อนกลับมา กลายเป็นน้ำที่หยดซึมมาจากตัวแอร์ในที่สุด
- ถาดคอยล์ด้านหลังของแผงคีบแอร์นั้นเกิดตัน และทำให้เกิดมีหยดน้ำเกาะอยู่นอกตัวแอร์
- ถาดน้ำทิ้งเกิดการชำรุด เช่นหลุด หรือแตก
- การเดินท่อภายในของช่างนั้นไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้หุ้มท่อไม่ได้มาตรฐาน และเกิดหยดน้ำเกาะรอบๆ ตัวจนหยดออกมานอกตัวแอร์ได้ในที่สุด
วิธีแก้ไข
- ควรทำความสะอาดโดยการใช้โบลเวอร์ (Blower) หรือเครื่องเป่าไฟฟ้า ไล่น้ำออกให้แห้ง โดยบริเวณที่เน้นมากๆ คือท่อน้ำทิ้งและบริเวณปลายท่อ
- แก้ไขโดยการล้างแอร์ ซึ่งหากผู้ใช้งานมีความชำนาญก็สามารถถอดส่วนประกอบ หรือท่อแอร์ออกมาล้างได้เลย ฃ
- หากแอร์นั้นมีความสกปรกมาก เช่นฝุ่นหรือมีคราบสกปรกไปเกาะอยู่จำนวนมาก เครื่องจะระบายความเย็นออกมาไม่ทัน ทำให้เกิดน้ำแข็งจับและกลายเป็นหยดน้ำออกมานอกเครื่องได้ในที่สุด กรณีนี้ควรติดต่อเรียกช่างแอร์จะดีกว่าครับ เพราะต้องทำการรื้อเครื่องดูจุดที่สกปรกซึ่งอยู่ภายในเครื่องแอร์นั่นเอง
- อีกสาเหตุที่พบได้บ่อยคือน้ำยาแอร์มีน้อยจนเกินไป หรืออาจเกิดจากการรั่วซึมของน้ำยา ควรติดต่อช่างแอร์โดยด่วน เพราะน้ำยาแอร์นี้เป็นส่วนที่สำคัญต่อการเกิดความเย็น ถ้าหากมีน้อยเกินไปจะทำให้ตัวแอร์นั้นปรับอากาศได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรืออาจทำให้เครื่องรวนหรือพังไปเลยก็ได้
- ตรวจดูว่าภายในเครื่องมีสัตว์จำพวกหนู หรือแมลงเข้าไปอาศัยหรือตายติดอยู่หรือไม่ เพราะบางครั้งสัตว์จำพวกนี้ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการอุดตันของท่อแอร์ภายในเครื่องได้
- ตรวจดูถาดน้ำทิ้ง หากพบว่าเลื่อน หรือเคลื่อน ควรทำการแก้ไขให้อยู่ในสภาพเดิม
2. อาการ แอร์ไม่เย็น ( คอมเพรสเซอร์ทำงาน ) ทำยังไงดี
สาเหตุ ที่ทำให้เป็นอาการนี้ คือ
- น้ำยาแอร์ขาด
- แอร์สกปรก
- คอมเพรสเซอร์ไม่มีกำลังอัด
- มีอาการตันของระบบน้ำยา
- การกระจายลมเย็นไม่เพียงพอ
วิธีแก้ไข
- เติมน้ำยาเข้าระบบแรงดัน 70-80 ปอนดต่อตารางนิ้ว
- ทำการล้างแอร์ทั้งคอย์ร้อนและคอยล์เย็นโดยปั๊มน้ำแรงดันสูง
- ทำการเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์
- ทำการเปลี่ยนแคปทิ้ว(ตัวฉีดน้ำยา) , ไดเออร์(ตัวกรองความชื้น)
- และแวคคั่มระบบเติมน้ำยาใหม่
- ปรับปรุงการจ่ายลมเย็น
3. อาการ แอร์ไม่เย็น ( คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน ) ทำยังไงดี
สาเหตุ ที่ทำให้เป็นอาการนี้ คือ
- สวิทซ์ควบคุมอุณหภูมิ (Thermostat) ไม่ทำงาน
- สายไฟขาดหรือหลวม
- แคปสตาร์ท (Starting Capacitor) ชำรุด
- แคปรัน (Running Capacitor) ชำรุด
- รีเลย์ ผิดปกติ
- โอเวอร์โหลดตัดการทำงานหรือชำรุด
- แรงเคลื่อนไฟฟ้าต่ำหรือแรงเคลื่อนไฟฟ้าตก
วิธีแก้ไข
- ถ้าปรับสวิทซ์ควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในตำแหน่งที่เย็นกว่าอุณหภูมิห้อง แต่เครื่องยังไม่ทำงานให้เปลี่ยนเทอร์โมสตัทใหม่
- ตรวจสอบสายไฟและขั้วต่อสายไฟต่างๆ เช่น ที่สวิทซ์และที่ขั้วสายไฟของคอมเพรสเซอร์
- ตรวจเช็คแคปสตาร์ทถ้าชำรุดให้เปลี่ยนใหม่
- ตรวจเช็คแคปรัน ถ้าชำรุดให้เปลี่ยนใหม่
- ตรวจซ่อมแก้ไข หรือเปลี่ยนรีเลย์ใหม่
- ตรวจดูว่าความร้อนที่คอมเพรสเซอร์สูงเกินไป หรือโอเวอร์โหลดผิดปกติหรือไม่
- ตรวจวัดแรงเคลื่อนไฟฟ้าและทำการแก้ไข
4. อาการ เครื่องปรับอากาศไม่ทำงาน เงียบไปเลย ทำยังไงดี
- สาเหตุ ที่ทำให้เป็นอาการนี้ คือ
- ฟิวส์ขาดหรือไม่มีฟิวส์
- สายไฟขาดหรือหลวม
- แรงเคลื่อนไฟฟ้าต่ำ หรือแรงเคลื่อนไฟฟ้าตก
- สวิทซ์ควบคุม ขัดข้องหรือชำรุด
วิธีแก้ไข
- เปลี่ยนหรือใส่ฟิวส์ใหม่
- ตรวจหาตำแหน่งที่ไฟฟ้าเกิดลัดวงจร
- ตรวจวัดแรงเคลื่อนไฟฟ้าที่สายไฟก่อนเข้าตัวสวิทซ์ ถ้าวัดแล้วมีแรงเคลื่อนถูกต้องแต่แรงเคลื่อนที่ผ่านออกจากตัวสวิทซ์มีค่าน้อยกว่า หรือไม่ถูกต้องให้เปลี่ยนสวิทซ์ใหม่
5. อาการ พัดลมทำงานมีเสียงดัง (คอยล์ร้อนเสียงดัง) ทำยังไงดี
สาเหตุ ที่ทำให้เป็นอาการนี้ คือ
- พัดลมมีสิ่งแปลกปลอมหรือกระทบกับสิ่งอื่น
- พัดลมหรือมอเตอร์พัดลมหลวมหรือชำรุด
- ใบพัดบิดเบี้ยวไม่สมดุลย์
- แมกเนติกเสื่อม
วิธีแก้ไข
- ตรวจสอบตำแหน่ง และช่องว่างของพัดลมและหาสิ่งแปลกปลอม
- ตรวจและขันพัดลมให้แน่นกับเพลา
- ตรวจสอบการบิดเบี้ยวของใบพัด ถ้าเสียให้เปลี่ยนใหม่
- ทำการเปลี่ยนแมกเนติก
6. อาการ แอร์มีกลิ่นอับชื้น ทำยังไงดี
สาเหตุ ที่ทำให้เป็นอาการนี้ คือ
- ในห้องที่ติดตั้งแอร์มีความชื้นสูง
- แอร์สกปรก
- เดินท่อน้ำทิ้งไปตรงกับรูท่อระบายน้ำทิ้ง
วิธีแก้ไข
- ตั้งโหมดลดความชื้นที่รีโมต
- ทำการล้างแอร์ด้วยปั๊มแรงดันสูง
- ทำการเปลี่ยนตำแหน่งท่อน้ำทิ้งแอร์ใหม่
7. อาการ ตัวเครื่องสั่นและมีเสียงลมดังผิดปกติ ทำยังไงดี
สาเหตุ ที่ทำให้เป็นอาการนี้ คือ
- ท่อน้ำยาด้านดูดและด้านส่งสัมผัสกัน
- น๊อต หรือสกรู ยึดคอมเพรสเซอร์ ฝาครอบเครื่องหรือแคปหลวม
- ใบพัดลมบิดงอ หรือหลวม แตก หัก
- พัดลมมอเตอร์ เคลื่อนออกจากตำแหน่งที่ตั้ง เนื่องจากจุดที่จับยึดหลวม
วิธีแก้ไข
- ดัดท่อให้เกิดช่องว่างระหว่างท่อทางด้านดูด และท่อทางด้านส่ง
- ขันน๊อต หรือสกรูให้แน่น
- เปลี่ยนพัดลมใหม่
- ตรวจตำแหน่งให้ถูกต้อง และขันน๊อตที่ล็อคให้แน่น
8. อาการ คอมเพรสเซอร์สตาร์ทไม่ทำงาน ทำยังไงดี
สาเหตุ ที่ทำให้เป็นอาการนี้ คือ
- ต่อวงจรไฟฟ้าไม่ถูกต้อง
- ไฟที่จ่ายไปยังเครื่องมีแรงเคลื่อนต่ำ (หรือแรงเคลื่อนไฟฟ้าตก)
- แคปรัน (Run Capacitor) เสียหายขัดข้อง
- มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ไหม้
- กลไกภายในคอมเพรสเซอร์ขัดข้อง
วิธีแก้ไข
- ตรวจเช็คและต่อวงจรไฟฟ้าใหม่
- ค้นหาสาเหตุและแนวทางป้องกันแก้ไขให้ถูกต้อง
- ค้นหาสาเหตุและแก้ไขแล้วเปลี่ยนแคปรันใหม่
- เปลี่ยนคอมเพรสเซอร์
9. อาการ บานสวิงที่คอยล์เย็นไม่ทำงาน ทำยังไงดี
สาเหตุ ที่ทำให้เป็นอาการนี้ คือ
- มอเตอร์สวิงเสีย
- ขาบานสวิงหัก
- แผงควบคุมเสีย
วิธีแก้ไข
- ทำการเปลี่ยนมอเตอร์สวิง
- ทำการเปลี่ยนขาบานสวิง
- ทำการเปลี่ยนแผงควบคุม
- 10. อาการ คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน (คอมเพรสเซอร์ไม่มีเสียง) ทำยังไงดี
สาเหตุ ที่ทำให้เป็นอาการนี้ คือ
- สวิทซ์ของเครื่องปรับอากาศยังไม่ได้เปิดหรือเปิดไม่ครบถ้วน (บางตัวอยู่ในตำแหน่ง OFF)
- ฟิวส์ขาด
- โอเวอร์โหลดตัดวงจร (Trips)
- ระบบควบคุมการทำงานของเครื่อง เช่น รีโมทคอนโทรลมีปัญหาขัดข้อง
- ปรับตั้งเทอร์โมสตัทที่อุณหภูมิสูงเกินไป ทำให้เทอร์โมสตัทตัด
- ติดตั้งเทอร์โมสตัทหรือชุดควบคุมอุณหภูมิในตำแหน่งที่โดนลมเย็นจากเครื่องเป่าลมเย็นโดยตรง
- ต่อวงจรไฟฟ้าไม่ถูกต้องหรือเกิดการลัดวงจร
วิธีแก้ไข
- ปิดสวิทซ์ที่จ่ายไฟให้เครื่องปรับอากาศให้ครบทุกตัว (สับสวิทซ์ให้อยู่ในตำแหน่ง ON)
- ใส่หรือเปลี่ยนฟิวส์
- ตรวจเช็คระบบไฟฟ้าเพื่อหาสาเหตุของการตัดวงจรแล้วแก้ไขให้เรียบร้อย
- เปลี่ยนหรือซ่อมแก้ไขระบบควบคุมการทำงานของเครื่อง
- ปรับตั้งเทอร์โมสตัทให้อุณหภูมิทำความเย็นต่ำลง
- เปลี่ยนตำแหน่งติดตั้งเทอร์โมสตัทหรือชุดควบคุมอุณหภูมิใหม่ให้อยู่ในตำแหน่งที่ไม่โดนลมเย็น
- ตรวจเช็คและต่อวงจรไฟฟ้าใหม่
11. อาการ คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงานและโอเวอร์โหลดตัดวงจร ทำยังไงดี
สาเหตุ ที่ทำให้เป็นอาการนี้ คือ
- ต่อวงจรไฟฟ้าไม่ถูกต้อง
- ไฟที่จ่ายไปยังเครื่องมีแรงเคลื่อนไฟฟ้าต่ำ (หรือมีแรงเคลื่อนไฟฟ้าตก)
- มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ไหม้
วิธีแก้ไข
- ตรวจเช็ควงจรไฟฟ้าใหม่และแก้ไขให้ถูกต้อง
- ค้นหาสาเหตุและหาแนวทางป้องกันแก้ไขให้ถูกต้อง
- เปลี่ยนคอมเพรสเซอร์
12. อาการ โอเวอร์โหลดตัดวงจรและคอมเพรสเซอร์หยุดทำงานหลังจากที่เริ่มสตาร์ทใหม่ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ
สาเหตุ ที่ทำให้เป็นอาการนี้ คือ
- มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านโอเวอร์โหลดมากเกินไป
- มีแรงเคลื่อนไฟฟ้าตก
- โอเวอร์โหลดขัดข้อง
- แคปรัน (Run Capacitor) เสียหาย ขัดข้อง
- คอมเพรสเซอร์ร้อนจัด
- คอมเพรสเซอร์ไหม้
วิธีแก้ไข
- ตรวจเช็ควงจรไฟฟ้า มอเตอร์พัดลม การต่อสายไฟและขนาดของโอเวอร์โหลดให้ถูกต้อง
- ค้นหาสาเหตุและทำการแก้ไข
- ตรวจเช็คกระแสไฟฟ้าและเปลี่ยนโอเวอร์โหลด
- ค้นหาสาเหตุและเปลี่ยนแคปรันใหม่
- ตรวจวัดสารทำความเย็น (มีการรั่วหรือไม่) ถ้าจำเป็นให้เพิ่มเติมแล้วตรวจสอบซุปเปอร์ฮีท
- เปลี่ยนคอมเพรสเซอร์
13. อาการ แคปรัน (Run Capacitor) ขาด ลัดวงจร ทำยังไงดี
สาเหตุ ที่ทำให้เป็นอาการนี้ คือ
- ใช้ขนาดความจุไม่ถูกต้อง
- แรงเคลื่อนไฟฟ้าสูงผิดปกติ (มากกว่า 110% ของแรงเคลื่อนไฟฟ้าสูงสุด)
วิธีแก้ไข
- เปลี่ยนแคปรันให้มีขนาดความจุที่ถูกต้อง
- หาสาเหตุและแก้ไขให้ถูกต้อง
14. อาการ ท่อน้ำยาด้านดูดมีน้ำหรือเกล็ดน้ำแข็งเกาะ ทำยังไงดี
สาเหตุ ที่ทำให้เป็นอาการนี้ คือ
- พัดลมของแฟนคอยล์ยูนิตไม่ทำงาน
- มีสารทำความเย็นระบบมากเกินไป
วิธีแก้ไข
- หาสาเหตุและซ่อมแก้ไข
- ปล่อยสารทำความเย็นออกจากระบบแล้วตรวจสอบซุปเปอร์ฮีท
15. อาการ ท่อน้ำยาด้านส่งมีน้ำหรือน้ำแข็งเกาะ (เฉพาะเครื่องรุ่นที่ฉีดน้ำยาที่แฟนคอยล์ ยูนิต) ทำยังไงดี
สาเหตุ ที่ทำให้เป็นอาการนี้ คือ
- อุปกรณ์กำจัดความชื้นและไส้กรองตัน
- ตัวเซอร์วิสวาล์วด้านส่งเปิดไม่สุด
วิธีแก้ไข
- เปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่
- เปิดวาล์วให้สุด
16. อาการ ความดันท่อน้ำยาทางด้านดูดและทางด้านส่งต่ำกว่าปกติ ทำยังไงดี
สาเหตุ ที่ทำให้เป็นอาการนี้ คือ
- สารทำความเย็นในระบบมีน้อย
- วาล์วคอมเพรสเซอร์รั่วหรือชำรุด
วิธีแก้ไข
- ตรวจรอยรั่วของระบบ ทำการแก้ไขและเติมสารทำความเย็นเข้าไปใหม่ให้ได้ปริมาณที่ถูกต้องแล้วทำการตรวจสอบซุปเปอร์ฮีท
- เปลี่ยนวาล์วคอมเพรสเซอร์